ขายของออนไลน์อะไรดี ขายของออนไลน์ให้ปัง ทำอย่างไร 2020
54 | | . | การตลาดออนไลน์, ความรู้
ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การขายของออนไลน์นั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตประจำวันของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีพฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นตามลำดับ หากเราอ่านข่าวช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวที่เกี่ยวกับ 7 Eleven ร้านค้าปลีกยอดนิยมที่แม้ว่าจะขยายพื้นที่ช่องการจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศไทยก็ยังมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงในมุมมองของเรากันบ้างครับว่าหากเราต้องการขายของออนไลน์ในปี 2020 นี้ เราจะขายของออนไลน์อะไรดี การเริ่มต้นขายของออนไลน์ วิธีการขายของออนไลน์ และการขายของออนไลน์ให้ปังนั้นจะต้องทำอย่างไรกันครับ
รายละเอียดเนื้อหา
ขายของออนไลน์อะไรดี
คำถามนี้เป็นคำถามที่เรามักจะได้ยินบ่อยว่า ถ้าเราอยากขายของออนไลน์แล้วเราจะขายของออนไลน์อะไรดี ในส่วนนี้ผมจะแนะนำให้ค้นหาสินค้าจากมุมมองของผู้อ่านนะครับ ว่าสินค้าที่เราจะขายนั้นต้องมีคุณลักษณะอย่างไรถึงจะสามารถขายออนไลน์ได้ดีและมีกำไร โดยสินค้าที่เราจะหานั้นจะต้องทำได้ดังต่อไปนี้
- สินค้าจะต้องเป็นของตัวเองและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง สาเหตุที่ผมระบุหัวข้อนี้เป็นหัวข้อหนึ่ง เพราะว่า ปัจจุบันการขายสินค้าออนไลน์นั้นสามารถทำกันได้ง่ายขึ้น โรงงานหรือผู้ผลิตหรือผู้เล่นเจ้าใหญ่ๆ จากจีนบางรายก็กระโดดเข้ามาขายสินค้าออนไลน์เช่นเดียวกันและอาจจะมีการเข้าสู่ตลาดมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นหากเราต้องการที่จะอยู่ในตลาดนานๆ และไม่ต้องการอยู่ในสงครามราคา เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีสินค้าที่เป็นของตัวเองและสามารถทำได้เองครับ แต่คำถามก็คือ เราจะทำอะไรละที่จะให้มีสินค้าเป็นของตัวเองและสามารถทำได้เอง คำตอบนี้ให้ย้อนกลับมาที่ตัวเราก่อนครับว่าเราถนัดอะไรและชอบอะไร มีอะไรอยู่ในมือบ้าง ให้เรานำสิ่งนั้นมาตั้งต้น แต่ในกรณีที่เราไม่สามารถผลิตสินค้าเองได้ ให้หาสินค้าที่เรามีอำนาจการต่อรองหรือกำไรสูงหรือเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวในเขตพื้นที่ที่เราสนใจ
- สินค้าจะต้องตามเทรนด์ของไทยหรือของโลก หลังจากที่เราได้ตรวจสอบตัวเองจากข้อแรกมาแล้ว สิ่งสำคัญถัดมาก็คือ สินค้าที่เราจะเลือกนั้นจะต้องตามเทรนด์ของไทยหรือของโลกด้วยครับ เราอาจจะพัฒนาสินค้าที่เรามีอยู่หรือสร้างใหม่ก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องสำอางยี่ห้อศรีจันทร์ (Srichand) ที่ได้มีการปรับแบรนด์ของตัวเองที่ให้ความรู้สึกสำหรับคนรุ่นเก่ามาเป็นสินค้าที่ดูทันสมัย หรือ ระบบการตัดและเก็บน้ำยางจากต้นยางซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติที่ประเทศจีนได้พัฒนาก็เป็นอีกตัวอย่างที่น่าสนใจ (ดูระบบการตัดและเก็บน้ำยาง)
- สินค้าออนไลน์ที่เราจะขายสามารถเป็นได้ทั้งผลิตภัณฑ์หรือบริการ ข้อนี้มีไว้เพื่อเราจะได้ไม่จำกัดการขายไว้ที่ผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว การบริการก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราสามารถทำการขายผ่านออนไลน์ได้เช่นเดียวกันครับ เช่น เราอาจจะขายหนังสือออนไลน์ ทำการสอนคอร์สออนไลน์ เป็นต้น
- สินค้าจะต้องมีกำไรเมื่อทำการโฆษณาผ่านอินเตอร์เน็ท ข้อนี้เป็นอีกข้อหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการเลือกสินค้าสำหรับการขายของออนไลน์ครับ เพราะเมื่อเรามีของจะขายแล้ว หากเราต้องการแนะนำสินค้าหรือขายสินค้า เราก็จำเป็นที่จะต้องทำการโฆษณาสินค้าผ่านระบบออนไลน์เช่นเดียวกัน ซึ่งได้แก่ Google หรือ Facebook
โดยปกติการโฆษณาผ่านทั้งสองระบบนั้นจะมีต้นทุนการโฆษณาและราคาโฆษณาจะขึ้นอยู่กับคีย์เวิร์ดที่เราต้องการทำการโฆษณา หากคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันกันสูงก็จะทำให้ต้นทุนการโฆษณาแพง แต่หากคีย์เวิร์ดไหนมีการแข่งขันต่ำก็จะมีโฆษณาที่ถูกลง ดังนั้นการหาสินค้าของเราอีกส่วนหนึ่งก็คือ ให้ดูต้นทุนที่เราจำเป็นจะต้องจ่ายไปสำหรับการโฆษณานี้ด้วย เช่น หากเราทำการยิงโฆษณาจำนวน 1000 บาท ต่ออาทิตย์ เราก็ต้องหาสินค้าที่เราสามารถทำการคืนทุนกับการยิงโฆษณาแต่ละรอบให้ครอบคลุมต้นทุนนี้ โดยพิจารณาจากจำนวนการเข้าถึงการยิงโฆษณา (Target Reach) ดังกล่าวด้วย
ขายอะไรดีออนไลน์ 2020
หากมาถึงตรงนี้แล้วเรายังคิดไม่ออกว่าจะขายอะไรดี ให้เราลองค้นหาแนวโน้มการค้นหาจาก Google Trend ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ โดยให้เราทำการระบุขอบเขตพื้นที่ อุตสาหกรรมที่สนใจและช่วงเวลาที่มีการค้นหา เราก็จะได้แนวโน้มหรือเทรนด์ที่มีคนค้นหาในช่วงเวลานั้นๆ ได้
จากตัวอย่างด้านล่างเป็นการค้นหาในปี 2019 หรือเมื่อ 12 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่ประเทศไทย โดยทำการเลือกในหมวดช็อปปิ้งเป็นหมวดหมู่หลักและผู้ขายรายใหญ่ ห้างสรรพสินค้าเป็นหมวดหมู่รายย่อย ผลปรากฏว่ามีการค้นหาแฟลชซึ่งเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง +1550% เป็นต้น

สำหรับเว็บ Branding Champ นี้ได้ทำสรุปเกี่ยวกับสินค้าที่มีการค้นหามากในแต่ละเดือน เราสามารถเข้าไปดูได้เลยครับว่า มีสินค้าใดที่เราสามารถนำมาขายได้บ้าง
การเริ่มต้นขายของออนไลน์
หลังจากที่เราได้สินค้าหรือบริการที่เราจะขายแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่เราจะต้องทำในการเริ่มต้นขายของออนไลน์ก็คือ เราจะต้องมีหน้าร้านเพื่อโชว์สินค้าของเราครับ หน้าร้านในที่นี้อาจจะเป็นเว็บไซต์ เพจเฟสบุ๊ค หรือ หน้าร้านที่อยู่บนแพล็ตฟอร์มขายออนไลน์ต่างๆ เช่น Lazada หรือ Shopee และเว็บขายของออนไลน์ต่างประเทศต่างๆ เช่น Amazon
เว็บขายของ
หากเราต้องการที่จะมีเว็บไซต์ของตัวเองอย่างง่ายๆ เราสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ด้วยระบบ CMS ที่ชื่อว่า WordPress ซึ่งสามารถสร้างได้อย่างง่ายๆ สามารถศึกษาได้จาก สอน WordPress หลังจากที่เราได้เว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนถัดไปเราจะต้องทำเว็บไซต์ของเราให้เป็นระบบร้านค้าออนไลน์ด้วยการใช้งาน WooCommerce ซึ่งเราสามารถศึกษาได้จาก สอน WooCommerce

ในส่วนวิธีขายของออนไลน์ในเฟสบุ๊ค ก็สามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ได้เช่นกัน ขั้นตอนก็คือ เราจะต้องทำการสร้างเพจเพื่อทำการขายสินค้า แล้วทำการเพิ่มรายการสินค้าลงไปในระบบและขายผ่านเฟสบุ๊ค ซึ่งผู้ซื้อนั้นจะต้องมีการล็อกอินเข้าเฟสบุ๊คก่อนถึงจะทำการสั่งซื้อสินค้าได้ครับ
Lazada หรือ Shopee

แพล็ตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เราสามารถนำสินค้าของเราไปวางขายได้ครับ วิธีการก็คือ เราจะต้องสมัครขายสินค้าบนแพล็ตฟอร์มดังกล่าวถึงจะสามารถนำสินค้าไปวางขายได้ อย่างไรก็ตามการขายสินค้านั้นแนะนำให้อ่านถึงกฎเกณฑ์ข้อกำหนด ข้อดีข้อเสีย ความเสี่ยงต่างๆ ของการขายผ่านแพล็ตฟอร์มทั้งสองให้ละเอียดด้วย เนื่องจากมีเรื่องของค่าปรับ (Fee) ต่างๆ เช่น ค่าปรับในกรณีที่เราไม่ทำการส่งสินค้า เป็นต้น
วิธีขายของออนไลน์
วิธีขายของออนไลน์ก็เหมือนกับการขายของทั่วไป คือ ทำการแจ้งราคาหรือใส่ราคาในสินค้าที่แสดง มีการสอบถามราคาจากลูกค้า รับเงินสินค้า ทำการจัดส่งสินค้า ข้อแตกต่างกันก็คือ ลูกค้าอาจจะไม่ได้เห็นสินค้าจริง ดังนั้นเราจะต้องมีรูปภาพ รายละเอียด วิดีโอและรีวิว เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นถึงคุณสมบัติทั้งหมดของตัวสินค้าก่อนทำการตัดสินใจ และอาจจะต้องมีช่องทางการติดต่อมากกว่า 1 ช่องทาง เช่น การติดต่อผ่านทางอีเมล์ มือถือ Line และ Facebook Messenger
ปัจจุบันวิธีการขายออนไลน์มีมากมายนอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว เราอาจจะเห็นการขายออนไลน์ด้วยวิธีการ Live สด ผ่านทาง Facebook หรือ YouTube มากขึ้น เพราะเป็นการสื่อสาร 2 ทาง เช่น อาบังอนุรักษ์ที่ขายอาหารทะเลตากแห้งที่สามารถทำยอดขายได้สูงถึงหลักล้าน
ขายของออนไลน์ให้ปัง
วิธีการขายของออนไลน์ให้ปังนั้น ความยากอยู่ที่การทำให้ลูกค้าค้นหา เห็นสินค้าของเราและจดจำสินค้าได้ ดังนั้นสิ่งที่จะต้องทำมีดังนี้
- ตั้งชื่อเว็บไซต์ สโสแกนและชื่อสินค้าให้จดจำได้ง่าย
- ทำเว็บไซต์ให้สวยและง่ายต่อการใช้งาน
- ให้เราทำเว็บไซต์ของเราให้อยู่หน้าแรกของ Google ด้วยเทคนิค SEO
- โฆษณาทั้งออฟไลน์และออนไลน์
- มีรีวิวสินค้าให้น่าสนใจ
- ทำการ Live สดผ่าน Facebook และ Youtube
มาถึงตรงนี้แล้วคงพอจะเห็นภาพรวมของการขายของออนไลน์กันบ้างแล้วนะครับ คราวนี้ถึงขั้นตอนลงมือทำกันละครับหากใครที่สนใจลงมืออย่างจริงจังก็สามารถเริ่มต้นกันได้เลย ส่วนใครขายอะไรกันบ้างก็มาบอกเล่ากันได้นะครับ เผื่อผมจะไปเป็นลูกค้า อิอิ สำหรับบทความนี้ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ