Elementor Pro สุดยอดเครื่องมือช่วยทำเว็บไซต์และวิธีการใช้งาน
สวัสดีครับ ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับสำหรับบทความใหม่ๆ วันนี้ผมจะมาแนะนำปลั๊กอินที่ชื่อ Elementor กันอีกครั้งครับ แต่เป็น Elementor เวอร์ชั่น Pro หลังจากที่วันก่อนได้แนะนำเกี่ยวกับ Elementor เวอร์ชั่นปกติไปแล้ว สามารถอ่านหัวข้อ Elementor ก่อนหน้าได้ที่บทความ Elementor Page Builder อันดับหนึ่งเครื่องมือช่วยสร้างหน้าเว็บไซต์ นี้ครับ
Elementor Pro
สำหรับ Elementor Pro นี้ เป็นเวอร์ชั่นที่จะต้องเสียเงินในการซื้อเพื่อมาใช้งานครับ โดยเราจะต้องไปที่เว็บไซต์ Elementor และเข้าไปทำการเลือกแพ็คเกจที่เราต้องการครับ ซึ่งแพ็คเกจที่ให้เราเลือกมี 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ Personal, Plus และ Expert โดยทุกแพ็คเกจสามารถใช้งานวิตเจ็ตโปร จำนวน 90 วิตเจ็ตขึ้นไป มีเทมเพลตให้ใช้งานถึง 300 เทมเพลต มีเครื่องมือสร้างธีม (Theme Builder) และเครื่องมือใช้งานเกี่ยวกับวูคอมเมิรซ์ (WooCommerce Builder) ตัวจัดการป๊อบอัพ (Popup Builder) และมีการสนับสนุนการใช้งานและอัพเดทแบบปีต่อปี
ความแตกต่างกันระหว่าง 3 แพ็คเกจอยู่ที่จำนวนเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานได้และราคาครับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- แพ็คเกจ Personal เป็นแพ็คเกจสำหรับ 1 เว็บไซต์ ราคาอยู่ที่ 49US$ ต่อปี
- แพ็คเกจ Plus เป็นแพ็คเกจสำหรับ 3 เว็บไซต์ ราคาอยู่ที่ 99US$ ต่อปี
- แพ็คเกจ Expert เป็นแพ็คเกจสำหรับ 100 เว็บไซต์ ราคาอยู่ที่ 199US$ ต่อปี
หลังจากที่เราเลือกและทำการสั่งซื้อแล้ว ให้เราทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบของ Elementor แล้วไปที่แท็บ My Account ซึ่งในส่วนนี้ จะมี License Key และลิงก์ในหัวข้อ Active Installs ที่เราจำเป็นจะต้องเข้าไประบุชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการใช้งาน เพื่อให้ Elementor Pro สามารถใช้งานได้ครับ
หลังจากที่เราทำการ Activate การใช้งาน Elementor Pro ให้เรากลับไปที่เว็บไซต์ที่เราต้องการใช้งาน ทำการเปิดใช้งาน Elementor ตามปกติ เราจะเห็นเมนู Go Pro ที่อยู่ภายใต้เมนู Elementor เปลี่ยนเป็นเมนูที่ชื่อ License ครับ และแสดงสถานะว่า Active หรือใช้งานอยู่ หากเราต้องการปลดไม่ใช้งานก็สามารถกดที่ปุ่ม Disconnect ได้
Element Pro ให้อะไรมาบ้าง
เมื่อเราติดตั้ง Elementor Pro แล้ว สิ่งแรกที่เราจะได้ก็คือในส่วนของเมนูเทมเพลต (Template) ครับ โดยเราจะสามารถใช้งานได้ในส่วนของ Theme Builder และ Popups ซึ่งจะทำให้เราสามารถสร้างส่วนประกอบสำคัญของเว็บไซต์ เช่น ส่วนหัว (Header) ส่วนท้าย (Footer) ส่วนเมนู (Menu) และส่วนป๊อบอัพ (Popup) ด้วย Elementor ได้ครับ
จากรูปจะเห็นว่า ผมได้ทำการสร้างส่วนของ Header และ Footer ที่ Theme Builder และสร้างเมนูที่ Popups Builder เราสามารถทำการแบ่งหมวดหมู่ได้ด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาได้ด้วยครับ วิธีการสร้างนั้นก็สามารถทำได้แบบเดียวกับการใช้งาน Elementor ทั่วไป คือ การแบ่งแถวและคอลัมน์ ลากวิตเจ็ตไปจุดที่ต้องการ ทำการตั้งค่าวิตเจ็ตที่เราเลือกครับ ซึ่งผมจะไม่พูดในส่วนนี้อีกนะครับ สามารถไปดูบทความเก่าที่ผมอ้างอิงไว้ด้านบนได้
ส่วนถัดมาเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญมากในการใช้งานก็คือ ส่วนของวิตเจ็ตที่ทาง Elementor Pro เสริมขึ้นมา เพื่อให้เราสามารถทำการสร้างหน้าเว็บของเราได้ง่ายขึ้น วิธีการใช้งานในส่วนนี้เราจะสามารถใช้ได้ในส่วนของเรื่อง (Post) หรือหน้า (Page) หรือหน้าเฉพาะ (Custom Post Type) โดยให้ทำการเปิดใช้งาน Elementor ในหน้านั้นๆ ครับ
เมื่อเข้ามาแล้วเราจะพบกล่องทางด้านซ้ายมือในหมวดหมู่ Pro จะเห็นว่าส่วนนี้ได้เปิดให้เราใช้งานแล้ว มีวิตเจ็ตที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น Posts, Portfolio, Gallery, Form, Login, Media Carousel, Facebook Page และอื่นๆ ครับ ภายในวิตเจ็ตแต่ละตัว นอกจากนี้แล้ว สำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์เรายังสามารถทำการใช้งานในส่วน Custom CSS ได้ ทำให้การแก้ไขหน้าตาเว็บไซต์ทำได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ
นอกจากนั้นแล้ว หากเราคลิ๊กเข้าไปดูในส่วนของเทมเพลต Elementor Pro ก็ทำการปลดล็อกให้เราสามารถเลือกเทมเพลตสวยๆ ที่เขาได้พัฒนาแล้วมาให้เราใช้งานได้อีกด้วยครับ
ส่วนเสริมอีกส่วนหนึ่งที่ Elementor Pro มีไว้ให้เราใช้งานก็คือ ส่วน Custom Fonts และ Custom Icons ครับ มีไว้เผื่อในกรณีที่เราต้องการฟอนต์หรือไอคอนเฉพาะเจาะจงที่เราซื้อมาใช้งาน เราก็สามารถทำการเพิ่มได้ในทันทีครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอเห็นขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นของ Elementor Pro กันแล้วใช้ไหมครับว่ามันสุดยอดขนาดไหน หากใครสนใจที่จะนำไปใช้งาน ก็สามารถทำการดูแพ็คเกจและสั่งซื้อกันได้เลยครับ ผมรับประกันว่าถูกใจสำหรับผู้ใช้งานแน่นอน สำหรับบทความฉบับนี้ก็ขอลาไว้แต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ..
