13 ปลั๊กอิน WordPress แนะนำสำหรับทำเว็บไซต์

สำหรับบทความนี้ เราจะมาแนะนำปลั๊กอิน WordPress ที่จะต้องมีสำหรับการทำเว็บไซต์นะครับ ว่ามีปลั๊กอินใดบ้างที่เมื่อเรานำมาติดตั้งแล้วจะเพิ่มศักยภาพของเว็บไซต์ของเราให้ดีขึ้น หากใครไม่เข้าใจว่าจะติดตั้งปลั๊กอิน WordPress ได้อย่างไร แนะนำอ่านบทความย้อนหลังเกี่ยวกับการติดตั้งปลั๊กอิน WordPress ก่อนนะครับ

โดยทั่วไปแล้ว เวลาเราทำการซื้อธีมมา ยกตัวอย่างเช่น ซื้อมาจาก Themeforest ธีมที่เราได้มานั้นจะมีการให้ปลั๊กอินพ่วงมาด้วย โดยเราจะต้องทำการติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอินเหล่านั้น ซึ่งครอบคลุมการทำงานสำหรับธีมนั้นๆ แต่ในบางกรณี ถ้าเราใช้ธีมฟรีหรือไม่ได้ทำการซื้อธีมมา หรือ ธีมที่ซื้อมาให้ปลั๊กอินมาใช้ไม่ได้ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เราจำเป็นที่จะต้องทำการติดตั้งปลั๊กอินเอง ปลั๊กอินด้านล่างนี้เป็นปลั๊กอินที่ทางเราแนะนำให้ติดตั้งไว้ครับ ไม่มีผิดหวังแน่นอน

LayerSlider

LayerSlider
LayerSlider

ปลั๊กอิน LayerSlider เป็นปลั๊กอินกลุ่มสไลเดอร์ (Slider) ที่เบาและทำงานง่าย ปลั๊กอินนี้จะต้องเสียเงินเพื่อเปิดใช้งาน สามารถทำการสร้างหน้าสไลด์ (Slide) ได้ มีอนิเมชั่น (Animation) หรือ การเคลื่อนไหวของภาพ (Image) ข้อความ (Text) วิดีโอ (Movie) ตามเวลาที่กำหนด สามารถทำการปรับแต่งให้รองรับมือถือ แท็บเล็ต ได้อีกด้วย

Link: LayerSlider

Elementor

Elementor
Elementor

ปลั๊กอิน Elementor นี้เป็นปลั๊กอินในกลุ่ม Page Builder ที่ช่วยในการจัดหน้าตาเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการ สามารถทำการปรับแต่งได้ง่าย เพียงแค่ลากส่วนที่ต้องการไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ของหน้า สามารถทำการแบ่งคอลัมน์ ปรับแต่งสี ขนาดฟอนต์ ต่างๆ ได้ภายในจุดเดียว เหมาะสำหรับการสร้างหน้าแรกของเว็บไซต์ที่ต้องมีความสวยงาม

ปลั๊กอิน Elementor นี้ เราสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี แต่ถ้าต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น มี Widgets มากขึ้น มี Template มากขึ้น และสามารถใช้งานได้หลายเว็บไซต์ จะมีค่าใช้จ่ายตามแพ็คเกจที่เลือก ดูข้อมูลราคาเพิ่มเติมที่ Elementor Pro

Link: Elementor

WooCommerce

WooCommerce
WooCommerce

ปลั๊กอิน WooCommerce นี้เป็นปลั๊กอินที่ช่วยในการขายสินค้าออนไลน์ ที่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์ โดยมีฟังก์ชั่นการใช้งานครอบคลุมทั้งในเรื่องของการขาย การจัดการสินค้า การจัดการโปรโมชั่น การจัดการสต๊อกสินค้า การจัดการเรื่องการขนส่ง การจัดการเรื่องการชำระเงินค่าสินค้า และ รายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อบทความ WooCommerce คืออะไร

Link: WooCommerce

Seed Fonts

ปลั๊กอิน Seed Fonts นี้เป็นปลั๊กอินพัฒนาโดยคนไทยช่วยในเรื่องของฟอนต์ภาษาไทยให้มีความสวยงาม เราสามารถเลือกที่จะใช้งานฟอนต์จาก Google Fonts หรือฟอนต์ที่ให้มาในปลั๊กอินก็ได้ มีฟอนต์ไทยให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบมีหัวและไม่มีหัว ยกตัวอย่างเช่น ฟอนต์ Anakotmai, Sarabun และ Kanit เป็นต้น วิธีการทำงานจะมีแท็บแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัวข้อและส่วนเนื้อหา ระบบมีการตั้งค่าเริ่มต้นให้ เราสามารถเลือกฟอนต์ที่ต้องการแล้วเปิดใช้งานได้ในทันที เว็บไซต์ของเราก็จะสวยขึ้นมาทันทีครับ

Link: Seed Fonts

Contact Form 7

ปลั๊กอิน Contact Form 7 เป็นปลั๊กอินแบบฟอร์มกล่องข้อความ มีไว้เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อระหว่างผู้อ่านหรือผู้ซื้อสินค้ากับเจ้าของเว็บไซต์ เราสามารถทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบฟอร์มที่ต้องการว่าต้องการข้อมูลส่วนใดบ้าง เช่น ผู้ใช้งาน (Username) อีเมล์ (Email) เบอร์โทรศัพท์ (Phone) ข้อความที่ต้องการส่ง (Text or Description) หลังจากทำการสร้างฟอร์มเสร็จแล้ว ปลั๊กอินนี้จะให้เรานำ Shortcode ที่เกี่ยวข้องกับฟอร์มที่เราสร้างไปใส่ไว้ในหน้าที่ต้องการ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ฟอร์มการติดต่ออยู่ในหน้านั้นแล้วครับ

Link: Contact Form 7

RankMath

RankMath
RankMath

ปลั๊กอิน Rank Math เป็นปลั๊กอินในกลุ่ม SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของเราขึ้นลำดับหนึ่งใน Search Engine เช่น Google ได้ง่ายขึ้น โดยมีคะแนน (Score) บอกว่า บทความที่เราทำการเขียนนั้นได้คะแนนเท่าไร จะต้องทำการปรับแต่งในส่วนใดบ้าง เพื่อให้ Search Engine ชอบ ยกตัวอย่างเช่น จำนวนคำที่เขียนในบทความยาวเพียงพอหรือไม่ คีย์เวิร์ดในแต่ละจุดของบทความมีจำนวนกี่คำ รูปภาพมี ALT หรือไม่ เป็นต้น

Link: RankMath

Loco Translate

ปลั๊กอิน Loco Translate เป็นปลั๊กอินที่ช่วยในการแปลภาษา ปลั๊กอินนี้จะดึงคำที่ถูกตั้งค่าไว้ว่า จำเป็นต้องแปลภาษามาให้กับเราเพื่อทำการแปลเอง เช่น จากภาษาอังกฤษ มาเป็นภาษาไทย เราสามารถนำไฟล์ที่ถูกแปลแล้วโดยกลุ่มคนที่เป็นอาสาสมัครช่วยแปลมาทำการใส่ได้ เพื่อประหยัดเวลาในการแปล ปลั๊กอินนี้สามารถนำในส่วนของธีม ปลั๊กอินแต่ละตัว และไฟล์เวิร์ดเพรสหลักมาทำการแปลได้ ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถนำไฟล์ WooCommerce ที่ถูกแปลแล้วมาใส่ในเว็บไซต์ของเราได้

Link: Loco Translate

Mailchimp for WordPress

Mailchimp
Mailchimp

ปลั๊กอิน Mailchimp for WordPress นี้เป็นปลั๊กอินที่ช่วยในการทำการตลาดแบบอีเมล์มาร์เก็ตติ้ง โดยทำการเก็บข้อมูลผุ้สมัครสมาชิกรับข้อมูลข่าวสาร นำไปเก็บไว้ในเว็บ MailChimp สามารถทำการแบ่งกลุ่มของสมาชิกได้ และสามารถทำการส่งเมล์ไปยังสมาชิกแต่ละกลุ่มทั้งแบบออโต้หรือเขียนเป็นเมล์แต่ละฉบับก็ได้ ปลั๊กอินนี้ให้ใช้บริการฟรีจนกระทั่งมีสมาชิกถึง 1,000 คนก็จะเริ่มทำการคิดเงินหรือมีค่าใช้จ่าย

Link: MailChimp

Nextend Social Login

ปลั๊กอิน Nextend Social Login นี้เป็นปลั๊กอินที่ช่วยในเรื่องของการเข้าสู่ระบบ WordPress ผ่านทางช่องทางโซเชียลต่างๆ เช่น Facebook, Twitter, Google Plus โดยเราจะต้องทำการเชื่อมต่อกับ API ของโซเชียลนั้นๆ ปลั๊กอินนี้มีการระบุถึงขั้นตอนและวิธีการเชื่อมต่อกับ API ให้ ปลั๊กอินนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์ในปัจจุบัน

Link: Nextend Social Login

สอนใช้งาน ปลั๊กอิน WordPress
สอนใช้งาน ปลั๊กอิน WordPress

Redirection

ปลั๊กอิน Redirection นี้ ช่วยในกรณีที่เว็บไซต์ของเราแสดงผลหน้า 404 Page อาจจะเกิดจากการพิมพ์ชื่อลิงก์ (Slug) ผิด หรือ หน้านั้นไม่มีอยู่จริง ปลั๊กอินนี้จะช่วยทำให้เมื่อมีคนค้นหาหรือเข้าหน้าเว็บที่ไม่มีอยู่จริงนี้ถูกทำการเปลี่ยนหน้าไปยังหน้าที่เราระบุไว้ ปลั๊กอินนี้ควรมีไว้เป็นปลั๊กอินสามัญประจำบ้าน

Link: Redirection

Regenerate Thumbnails

ปลั๊กอิน Regenerate Thumbnails นี้ จะช่วยในกรณีการแสดงผลรูปภาพของเรามีการผิดเพี้ยน เช่น รูปแสดงผลขาดส่วนหัว หรือขาดส่วนด้านข้าง เราสามารถที่จะทำการกดปุ่ม Regenerate Thumbnails ให้ระบบทำการตรวจสอบรูปและดึงรูปที่มีขนาดเหมาะกับพื้นที่ที่ใส่รูปที่ถูกต้องมาใช้งาน ปลั๊กอินนี้สามารถทำการปิดไว้และเรียกใช้งานเมื่อจำเป็นได้

Link: Regenerate Thumbnails

Wordfence

ปลั๊กอิน Wordfence เป็นปลั๊กอินในกลุ่มความปลอดภัย สามารถทำการตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์ว่ามีช่องโหว่ในส่วนใดบ้าง พร้อมแนะนำวิธีการแก้ไข เช่น ให้อัพเดทในส่วนของ WordPress หรือปลั๊กอินที่เก่า หรือ ในกรณีที่เว็บไซต์ของเราถูกทำการเจาะระบบแล้วทำการฝังสคริปต์ ปลั๊กอินนี้สามารถทำการแจ้งได้ว่ามีไฟล์ไหนถูกทำให้เปลี่ยนไป เราสามารถทำการตรวจสอบและแก้ไขได้ตามลำดับ

Link: Wordfence

Duplicator

ปลั๊กอินนี้มีไว้เพื่อทำการโอนย้าย (Migration) หรือแบ็คอัพ (Backup) เว็บไซต์ของเรา มีวิธีการขั้นตอนคือทำการกดให้ระบบทำการสร้างในส่วนของ Installer และไฟล์ zip ของเว็บที่ต้องการโอนย้ายหรือแบ็คอัพเพียงแค่ 2 ไฟล์ แล้วนำไปเรียกใช้งานไฟล์ Installer ในเว็บใหม่ผ่านเบราเซอร์ ระบบก็จะทำการโคลนข้อมูลทั้งไฟล์และดาต้าเบสไปไว้ที่เว็บใหม่ให้กับเราอย่างง่ายดาย

Link: Duplicator

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ปลั๊กอิน WordPress ที่แนะนำทั้งหมดนี้ ลองติดตั้งแล้วทดสอบดูนะครับ ชอบตัวไหน ไม่ชอบตัวไหนก็บอกกันได้นะครับ

สอน WordPress หรือ WooCommerce
สอน WordPress หรือ WooCommerce