สอน WordPress [คู่มือและวิธีใช้งาน] ตอนที่ 2
33 | | . | WordPress, ความรู้, ระดับพื้นฐาน WordPress สอน wordpress, เว็บไซต์, เวิร์ดเพรส
หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว เราพูดถึงหัวข้อ สอน WordPress [คู่มือและวิธีใช้งาน] ตอนที่ 1 ไปกันนะครับ ในตอนที่ 2 นี้ เราก็ยังพูดถึงในเมนูบทความ (Posts) เพิ่มเติมอีกนิดหน่อยในส่วนของหมวดหมู่ (Categories), ป้ายกำกับ (Tags) และรายการบทความ (All Posts) หลังจากนั้นก็จะไปในเรื่องของหน้าหลัก (Pages), มีเดีย (Media) และความคิดเห็น (Comments) กันครับ
อ่านบทความย้อนหลัง
- WordPress คืออะไร
- ติดตั้ง WordPress เวอร์ชั่น 5 [คู่มือ วิธีการ และขั้นตอน]
- วิธีการอัพเว็บขึ้นโฮส [คู่มือ WordPress]
- สอน WordPress [คู่มือและวิธีใช้งาน] ตอนที่ 1
หมวดหมู่ (Categories)
![หมวดหมู่ (Categories)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/categories.jpg)
หมวดหมู่ (Categories) คือ กลุ่มของบทความ (Posts) ที่เราได้ทำเขียนมา มีไว้เพื่อจำแนกแยกรายการบทความแต่ละบทความให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้เนื้อหาของเว็บไซต์มีความต่อเนื่องเป็นระบบ และทำให้สามารถค้นหาเนื้อหาบทความได้ง่ายขึ้นด้วย วิธีการเพิ่มหมวดหมู่นั้น เราสามารถทำการะบุชื่อของหมวดหมู่ (Name) และคำบรรยายของหมวดหมู่ (Description) ว่าเกี่ยวข้องกับอะไร ยกตัวอย่างเช่น หมวดหมู่รถ Honda หากมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ Honda ก็จะถูกนำมาใส่ที่หมวดหมู่นี้ ในส่วนของสลัก (Slug) นั้น คือ ชื่อลิงก์ของหมวดหมู่นี้นี่เอง ซึ่งจะเป็นการนำชื่อของหมวดหมู่มาแปลงเป็นสลัก (Slug) มีลักษณะเป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด
เราสามารถที่จะทำการแบ่งหมวดหมู่ได้ในลักษณะหมวดหมู่ย่อยลงไปอีกได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำหนดหมวดหมู่มอเตอร์ไซต์และรถยนต์เป็นหมวดหมู่ย่อยของ Honda เวลาเราใส่หมวดหมู่มอเตอร์ไซต์ลงไปเราก็สามารถเลือกหมวดหมู่หลักว่า Honda ได้ที่เมนูหมวดหมู่หลัก (Parent Category) ครับ
ป้ายกำกับ (Tags)
![ป้ายกำกับ (Tags)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/tags.jpg)
ป้ายกำกับ (Tags) เป็นการแบ่งกลุ่มในส่วนของบทความเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นลักษณะของการแบ่งแบบคำที่ใช้กันบ่อยแต่ไม่สามารถนำมาเป็นหมวดหมู่ได้ ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ 5 ประตู สำหรับการสร้างป้ายกำกับ (Tags) สร้างในลักษณะเดียวกันกับหมวดหมู่ (Categories) แต่จะไม่มีหมวดหมู่ย่อยครับ
รายการบทความ (All Posts)
![รายการบทความ (All Posts)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/all-posts.jpg)
รายการบทความ (All Posts) จะเป็นรายการสรุปบทความทั้งหมดที่เรามีเป็นรายการๆ ไป โดยจะมีรายละเอียดที่สำคัญได้แก่ หัวข้อเรื่อง (Title) ชื่อผู้เขียน (Author) หมวดหมู่ (Categories) ป้ายกำกับ (Tags) ความคิดเห็น (Comments) และวันที่แสดงบทความ (Date) เราสามารถทำการแก้ไขหรือลบบทความได้เป็นลักษณะกลุ่ม (Bulk) ได้ด้วย วิธีการก็คือ ทำการเลือกกลุ่มบทความที่ต้องการแก้ไขหรือลบด้วยการทำเครื่องหมายถูกหน้าบทความนั้นๆ แล้วทำการเลือกทีเมนู Drop Down ที่ชื่อว่า Bulk Actions จะมีเมนูให้เลือก 2 ตัว คือแก้ไข (Edit) และลบ (Move to trash) ให้เราทำการกดปุ่ม Apply ระบบก็จะแสดงส่วนการแก้ไขแบบกลุ่มให้เราทำการแก้ไข หลังจากทำการแก้ไขแล้วให้กดปุ่มอัพเดท (Update) บทความที่ถูกทำการแก้ไขก็จะเปลี่ยนทั้งหมดครับ
![แก้ไขแบบกลุ่ม (Bulk Edit)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/bulk-edit.jpg)
เราสามารถทำดูรายการบทความที่อยู่ในกลุ่มต่างๆ ได้ เช่น กลุ่มที่แสดงบทความแล้ว (Published) กลุ่มร่างบทความ (Draft) และกลุ่มบทความที่ทิ้งแล้ว (Trash) และยังสามารถค้นหาบทความได้ด้วยที่กล่องค้นหาทางขวาบน
![สอน WordPress หรือ WooCommerce](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/06/study.jpg)
หน้า (Pages)
ก่อนหน้านี้เราพูดถึงเรื่อง (Posts) ที่เป็นในลักษณะของการเขียนบทความ แต่สำหรับหน้าหลัก (Pages) นี้จะเป็นการเขียนในลักษณะหน้าที่คงที่ (Static Page) ตัวอย่างของหน้า Pages ได้แก่ หน้าเกี่ยวกับเรา (About Us) หน้าติดต่อเรา (Contact Us) และหน้าอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทความ
![หน้า (Pages)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/page.jpg)
การเขียนในหน้า (Pages) นั้นจะมีลักษณะเดียวกันกับในส่วนของการเขียนเรื่อง (Posts) กล่าวคือ จะมี ส่วนการเขียนเนื้อหา กล่องเครื่องมือ และส่วนเพิ่มข้อมูลที่จำเป็น แต่จะมีความแตกต่างตรงที่เราสามารถทำการตั้งคุณสมบัติของหน้า (Page Attributes) ในส่วนของหน้า (Pages) ได้ครับ
คุณสมบัติของหน้า (Page Attributes) มีไว้เพื่อกำหนดให้หน้าที่เรากำลังเขียนนั้นแสดงผลแบบใด ยกตัวอย่างเช่น ในธีมที่เราซื้อมามีการกำหนดคุณสมบัติหน้า 3 แบบด้วยกัน คือ เทมเพลตแบบที่ 1 มีแถบด้านข้าง (Sidebar) ทางซ้ายมือ แบบที่ 2 มีแถบด้านข้าง (Sidebar) ทางขวามือ และแบบที่ 3 ไม่มีแถบด้านข้าง เป็นต้น ดังนั้นหากเราต้องการให้หน้าที่เราทำนั้นมีลักษณะแบบใดก็ให้ใช้เทมเพลตที่เราต้องการได้ครับ
นอกจากนัน้แล้วเรายังสามารถกำหนดให้หน้าที่อยู่ใน Pages หน้าใดหน้าหนึ่งเป็นหน้าแรกได้ด้วย โดยการเข้าไปตั้งค่าในส่วนการอ่าน (Settings > Reading) ในหัวข้อการแสดงผลหน้าแรก (Your homepage displays) ซึ่งจะมีปุ่มให้เลือกอยู่ 2 ตัวด้วยกัน คือ แสดงผลแบบรายการบทความล่าสุด (Your latest posts) และแสดงผลแบบหน้าคงที่ (A static page)
![หน้าคงที่ (Static Page)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/static-page.jpg)
ความแตกต่างระหว่างรายการบทความล่าสุดและแบบหน้าคงที่ ก็คือ การแสดงรายการบทความล่าสุดนั้นจะแสดงผลแบบ Blog Roll ดึงเนื้อหามาจากบทความ (Posts) เป็นรายการเรียงลงไปด้านล่าง โดยบทความล่าสุดจะอยู่ด้านบนสุด ในขณะที่แบบหน้าคงที่จะทำการดึงข้อมูลจากหน้า (Page) ที่ถูกเลือกมาแสดงผลแทน ยกตัวอย่างเช่น หากเรากำหนดเป็น A static page แล้วเราทำการเลือกหน้าในส่วนของ Homepage เป็นหน้า Sample Page ผลที่ได้เมื่อเรากลับไปดูในหน้าแรกของเรา เนื้อหาในหน้า Sample Page ก็จะแสดงออกมาที่หน้าแรกนั้นครับ
นอกจากนั้นแล้วในส่วนของ Post page ที่อยู่ถัดมาด้านล่างนั้น จะเป็นการดึงในส่วนของรายการบทความมาใส่แทน แต่จะแสดงอยู่ในลิงก์บทความ โดยหน้าที่ถูกเลือกนั้นเนื้อหาภายในของหน้าจะถูกแทนที่และแปลงเป็นหน้ารายการบทความอัตโนมัติ คือ www.เว็บของเรา.com/blog หน้าที่เรากำหนดให้เป็น Post page นั้น เราจะไม่สามารถทำการแก้ไขข้อมูลใดๆ ในหน้านั้นได้ครับ
รายการหน้า (All Pages)
รายการหน้า (All Pages) จะมีลักษณะเหมือนกันกับรายการบทความ (All Posts) มีการสรุปรายละเอียดของแต่ละหน้าเป็นรายการ ประกอบไปด้วย ชื่อเรื่อง (Title) ชื่อผู้เขียน (Author) และวันที่ทำการเผยแพร่ (Date) และเราสามารถทำการแก้ไขแบบกลุ่มได้เช่นเดียวกัน
มีเดีย (Media)
![สื่อ (Media)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/media.jpg)
เมนูถัดมาเป็นเมนูที่ชื่อว่าสื่อหรือมีเดีย (Media) ใช้สำหรับจัดการในส่วนของรูป วิดีโอ ไฟล์เสียง ที่อยู่ในเว็บไซต์นี้ทั้งหมด สามารถทำการใส่ข้อมูลของรูป เช่น ข้อความใต้ภาพ (Caption), ข้อความทางเลือก (Alternative Text), คำบรรยาย (Description) และยังสามารถทำการปรับแต่งขนาด ทิศทางการแสดงผลของรูป เช่น การกลับหัว กลับข้าง และตรวจสอบได้ว่า รูปที่ใช้อยู่นั้นอยู่ในบทความใดครับ
![การแก้ไขรูป](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/edit-image-2.jpg)
จากรูปด้านบนจะเห็นว่า มีพื้นที่การจัดการรูปอยู่ 4 จุดด้วยกัน คือ ในตำแหน่งที่ 1 นั้น จะมีปุ่มสำหรับตัดรูป (Crop) พลิกซ้าย พลิกขวา กลับบน กลับล่าง และทำการย้อนกลับไปข้างหน้า ซึ่งการตัดรูป (Crop) นั้นจะใช้ควบคู่กับกับตำแหน่งที่ 3 ที่ชื่อ Image Crop วิธีการก็คือ เราจะต้องทำการเลือกพื้นที่ที่เราจะทำการตัดด้วยการนำเมาส์ไปวางที่รูป ช่องเลือกตำแหน่ง (Selection) ก็จะแสดงว่าตำแหน่งที่อยู่นั้นอยู่ในตำแหน่งใด และทำการกำหนดขนาดที่ต้องการจะตัดว่ามีสัดส่วนเท่าใด (Aspect ratio) ครับ หลังจากที่เราได้ตำแหน่งและขนาดที่ต้องการแล้วให้ทำการกดที่ปุ่มสำหรับตัดรูป (Crop) ในตำแหน่งที่ 1 ก็จะสามารถตัดรูปได้แล้วครับ
สำหรับตำแหน่งที่ 2 เป็นในส่วนของการย่อขนาดรูป (Scale Image) เราสามารถทำการใส่ขนาดใหม่ที่ต้องการได้เป็นลักษณะ กว้างxยาว เมื่อได้ขนาดที่ต้องการแล้วก็ให้กดปุ่มย่อขนาด (Scale) รูปก็จะเปลี่ยนเป็นขนาดที่เราต้องการครับ ส่วนสุดท้ายคือตำแหน่งที่ 4 เป็นเรื่องของการตั้งค่ารูป (Thumbnail Settings) จะเป็นการกำหนดว่ารูปที่เราได้ทำการปรับแต่งแก้ไขแล้วนี้จะถูกนำไปใช้กับรูปขนาดใดบ้าง โดยมี 3 ตัวเลือกให้เลือก ได้แก่ นำไปใช้กับทุกขนาดของรูป (All image sizes) หรือเฉพาะรูปขนาดเล็ก (Thumbnail) หรือ ทุกรูปยกเว้นรูปขนาดเล็ก (All sizes except thumbnail)
![Media Library](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/media-library.jpg)
สำหรับในส่วนของ Media Library จะแสดงรายการของรูปออกมาโดยแสดงได้ 2 ลักษณะคือ แบบรายการ และแบบตาราง เราสามารถที่จะดูได้จากช่องอัปโหลดไปที่ (Uploaded to) ว่ารูปของเรานั้นถูกใช้ที่บทความใด
ความคิดเห็น (Comments)
![ความคิดเห็น (Comments)](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/07/comments.jpg)
ส่วนถัดมาจะเป็นส่วนของ ความคิดเห็น (Comments) ที่มีไว้เก็บรวบรวมข้อความแสดงความคิดเห็นจากผู้อ่านในแต่ละบทความ เราสามารถที่จะบริหารจัดการในส่วนนี้ได้ โดยการอนุมัติ (Approve) หรือไม่อนุมัติ (Unapprove) ข้อความที่เข้ามาได้ สามารถตอบกลับ (Reply) หรือทำการแก้ไขแบบเร็ว (Quick Edit) ทำการแก้ไข (Edit) หรือกำหนดให้ข้อความนั้นเป็นสแปม (Spam) และสามารถกำจัดข้อความนั้นทิ้งไปได้ (Trash) โดยข้อความที่ถูกจัดการแล้วก็จะไปอยู่ในลิงก์กลุ่มด้านบนของแต่ละกลุ่มครับ
การแก้ไขหรือลบในส่วนของความคิดเห็นสามารถทำการจัดการแบบกลุ่มได้เช่นเดียวกันกับรายการบทความ (All Posts) และรายการหน้า (All Pages) ครับ โดยให้ไปดูที่เมนู Bulk Actions จะมีรายการให้เลือกอยู่ 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งก็คือ ไม่อนุมัติ (Unapprove), อนุมัติ (Approve), กำหนดให้เป็นสแปม (Mark as spam), ย้ายไปที่ถังขยะ (Move to trash)
![สอน WordPress หรือ WooCommerce](https://themevilles.com/wp-content/uploads/2019/06/study.jpg)
สรุปบทความสอน WordPress ตอนที่ 2
เป็นอย่างไรกันบ้าง คงไม่ยากไปใช่ไหมครับ สำหรับบทความสอน WordPress [คู่มือและวิธีใช้งาน] ตอนที่ 2 นี้ ก็จะจบเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ คงจะสามารถทำกันได้แล้ว เนื้อหากำลังเข้มข้นเลยทีเดียว เพราะในบทความถัดไปเราจะพูดถึงวิธีการแต่งหน้าตาเว็บไซต์ ของเรา (Customize) การจัดการเมนู (Menus) และมารู้จักกับวิตเจ็ต (Widgets) ว่ามันคืออะไรและทำงานกันอย่างไร อดใจรอในตอนหน้านะครับ พบกันใหม่เร็วๆ นี้
แนะนำคอร์สสอน WordPress
สำหรับคนที่สนใจจะเรียนคอร์ส WordPress นะครับ เรามีสอน WordPress ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ สะดวกแบบไหนก็สามารถลงทะเบียนได้เลยครับ
สอน WordPress แบบห้องเรียน
- คอร์ส WordPress เบื้องต้น ราคา 4,500 บาท
- สถานที่เรียน Too Fast To Sleep เกษตรศาสตร์
- ทำการเลือกเวลาที่สะดวกและแจ้งลงทะเบียนได้ที่ Line ID: kuppik ครับ
- ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ คอร์สเรียน WordPress
Too Fast To Sleep 2 Too Fast To Sleep 3 Too Fast To Sleep 4 Too Fast To Sleep 1
สอน WordPress ออนไลน์
สามารถดูคอร์สออนไลน์ได้ที่คอร์ส การสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress 5 เริ่มต้นจาก 0 จนมีเว็บไซต์ หากต้องการดูคอร์สอื่นๆ เพิ่มเติมดูได้ที่ คอร์ส WordPress ใน Skilllane นะครับ